วิธีดูแลคอมเพรสเซอร์ให้ห่างไกลจากปัญหา

เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คอมเพรสเซอร์ใช้งานได้นาน

คอมเพรสเซอร์คู่หูสำคัญที่ทำงานร่วมกับ Indoor Unit หรือส่วนของเครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งในบ้าน โดยคอมเพรสเซอร์ หรือ Outdoor Unit มีหน้าที่บีบอัดสารทำความเย็นกลับเข้าไปที่ Indoor Unit ให้ปล่อยความเย็นออกมานั่นเอง ดังนั้นหากคอมเพรสเซอร์มีปัญหาจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศทั้งหมด ไปจนถึงเครื่องปรับอากาศใช้งานไม่ได้ ซึ่งปัญหาของคอมเพรสเซอร์สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย วันนี้แคเรียร์ได้รวบรวมปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอมเพรสเซอร์เกิดปัญหาอยู่บ่อยครั้ง พร้อมวิธีการดูแลรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานคอมเพรสเซอร์มาให้ในบทความนี้กันแล้ว

ตำแหน่งที่ตั้งคอมเพรสเซอร์ เรื่องสำคัญที่ควรรู้

• ปัจจัยที่ 1 ที่วางติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ (Outdoor Unit)
เป็นเรื่องธรรมดาที่คอมเพรสเซอร์จะเสื่อมสภาพตามระยะเวลาที่ถูกใช้งาน แต่รู้หรือไม่ว่าการเลือกที่วางคอมเพรสเซอร์ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญในการยืดอายุการใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แอร์จะต้องอยู่ข้างนอกบ้านเผชิญหน้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปในทุก ๆ วันทำให้มีโอกาสที่จะสึกกร่อนหรือเสื่อมประสิทธิภาพได้ง่ายกว่าปกติอย่างแน่นอน ดังนั้นการเลือกที่ติดตั้งที่เหมาะสมก็สามารถช่วยยืดอายุได้มากขึ้น

• ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์
เพราะคอมเพรสเซอร์เป็นชิ้นส่วนที่ต้องเจอกับความหลากหลายของสภาพอากาศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อากาศร้อน แดดออก ฝนตก รวมถึงความชื้นต่าง ๆ ทำให้เกิดการรั่วซึมหรือความสกปรกได้ง่าย ดังนั้นการติดตั้งคอสเพรสเซอร์จึงควรติดตั้งในพื้นที่ ที่หลีกเลี่ยงที่ ๆ มักโดนฝนสาด มีน้ำขังง่าย หรือโดนแดดโดยตรง รวมถึงควรติดตั้งด้านหลังคอมเพรสเซอร์ให้ห่างจากผนังเป็นไปตามคู่มือแต่ละรุ่นกำหนด. และด้านหน้าไม่ควรมีอะไรมาบดบังในระยะตามคู่มือแต่ละรุ่นกำหนด เพื่อให้ง่ายต่อการระบายความร้อน ตรวจเช็กสภาพและการทำความสะอาดนั่นเอง

วิธีหลีกเลี่ยงการทำงานหนักของคอมเพรสเซอร์

• ปัจจัยที่ 2 คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป
เมื่อเราใช้เครื่องปรับอากาศมาเป็นเวลาหลายปี เป็นเรื่องธรรมดาที่ประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศจะลดลง รวมถึงความสะอาดของเครื่องจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำความเย็น ดังนั้นการดูแลบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานได้ของเครื่องได้

• ทำอย่างไรไม่ให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินความจำเป็น?
ถึงแม้แอร์จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชม. แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องดูแลใส่ใจ โดยเราควรหมั่นเช็กจำนวนน้ำยาแอร์ว่ามีการรั่วหรือไม่ รวมถึงอย่าลืมหมั่นล้างทำความสะอาดคอมเพรสเซอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกสะสมและขัดขวางการทำงาน ที่สำคัญในการติดตั้งเพื่อให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป

แหล่งที่มาข้อมูลและภาพ : บริษัท บี.กริม แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ล้างแอร์ ต้องเติมน้ำยาแอร์ทุกครั้งไหม?

คำตอบคือ ไม่จำเป็นต้องเติม น้ำยาแอร์ ทุกครั้ง​

เหตุผลคือ ถ้าน้ำยาแอร์ขาด แล้วช่างบอกว่าต้องเติมน้ำยาแอร์เพิ่ม หมายความว่าต้องเกิดการรั่วซึมเป็นแน่ ฉะนั้นแอร์จะต้องไม่เย็น หรือมีคราบเหมือนน้ำแข็งเกาะติดที่บนแผงคอยล์ของตัวที่ส่งลมเย็นออกมา (สามารถมองผ่านช่องลมก็จะเห็น)

หากว่าก่อนช่างมาล้างแอร์ แล้วแอร์ก็ยังเย็นดีอยู่ แต่เริ่มเย็นน้อยลง หรือลมที่ออกมาเบาลง ก็ให้ช่างทำการล้างตามขั้นตอนทุกอย่างเสียก่อน ซึ่งเมื่อล้างเสร็จแล้วลองเดินเครื่องดูใหม่สัก 5 นาที แล้วท่านรู้สึกว่าแอร์เย็นเป็นปกติก็ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ (เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการเติมน้ำยาแอร์ ซึ่งท่านจะจ่ายเฉพาะค่าล้างแอร์ก็พอ)

แต่หากรู้สึกว่าล้างแอร์เสร็จแล้วแอร์ก็ยังไม่เย็น และช่างก็ยืนยันว่าน้ำยาแอร์ขาด ท่านก็ควรให้ช่างหาจุดที่น้ำยาแอร์รั่วให้พบ พร้อมกับแก้ไขเสียก่อนที่จะเติมน้ำยาแอร์เข้าไป มิฉะนั้นก็จะเปรียบได้เหมือนกับท่านขับรถยนต์แล้วลมยางอ่อน แต่ท่านไม่ให้ช่างหารอยรั่วพร้อมกับปะยางเสียก่อนเติมลมยางเข้าไป ฉะนั้นเมื่อท่านขับรถยนต์ไปอีกสักระยะลมยางก็จะอ่อนอีกเช่นเคย

error: Content is protected !!